top of page
  • iphone-icon-9_edited
  • line-icon
  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Google Places Icon

 เริ่มต้นรู้จัก JAMMER โดยมีโอกาสได้มาเป็นผู้สอน ตอนเรียนอยู่ปี 2 ต้องขอออกตัวก่อนว่าตัวผม ไม่ได้เป็นเด็กที่ติวจาก JAMMER มา แต่ได้มีโอกาสมา สอนที่นี่ จากคำแนะนำของเพื่อนที่เป็นพี่ติวอยู่ในตอนนั้น ตอนแรกรู้สึกกดดันและเครียดมาก เพราะทุกคนที่เป็นพี่ติวที่นี่นั้น เก่ง มีความสามารถ และเป็นเด็กที่เรียนกับ JAMMER มาทั้งนั้น 555 ดังนั้นมีความกดดันว่าเราต้องทำให้มันดี ทำให้ที่นี่ยอมรับเราให้ได้ คิดไปนู่นไปนี่ จนเริ่มกลัวที่จะมาสอน ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา กลายเป็นว่าทุกอย่างหน้ามือกลายเป็นหลังมือ คุณเคยมองภาพ สถานที่ติวเป็นแบบไหนกันครับ ? ที่ที่คนเยอะๆ พี่ติวดุๆ เด็กเรียนเสร็จแล้วกลับบ้าน พี่ติวมีหน้าที่สอนอย่างเดียว หมดเวลาแล้วเลิก น้องทำได้แค่ไหนแค่นั้น? ขอบอกว่าคุณคิดผิดครับ ที่นี่เปรียบเสมือน บ้าน เป็นบ้านจริงๆนะ เป็นบ้านที่มีพี่ มีน้อง มีครอบครัว ที่คอยสั่งสอน คอยช่วยเหลือ คอยให้คำปรึกษาซึ่งกันและกัน ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องเรียนอย่างเดียว มีทั้งเรื่องปัญหาชีวิต เรื่องเพื่อน หรือแม้กระทั่งเรื่องของความรัก... บางวันอยู่กันจนดึกดื่น ก็ถือเป็นเรื่องปกติ ถึงขนาดโดนพ่อแม่น้องถาม ว่าทำไมยังไม่เลิก... ก็เอาสิครับ น้องไม่กลับ พี่ก็ไม่กลับครับ 555 นี่เหละครับแจมเมอร์ ดังนั้นความคิดแรกของผม ที่มีต่อ JAMMER  ในตอนแรกนั้น หายไปตั้งแต่วันแรกๆที่เข้ามาที่นี่ แล้วเหละครับ เพราะผมถือว่าผมไม่ได้มาคร่ำเครียดสอนอย่างเดียว ผมมาบ้านครับ มาเจอน้องๆ มาเจอพี่ๆ มาเจอครอบครัว หลายๆอย่างนะครับ ที่ผมได้จากที่นี่ไป โดยเฉพาะเรื่องของการสอน ที่ไม่ได้สอนให้เด็กเก่งอย่างเดียว เด็กนั่นต้องเป็น คนดีของสังคมด้วย นี่เหละครับเสน่ห์ของที่นี่ ความอบอุ่นจากที่นี่ ที่หาที่อื่นไม่ได้ สุดท้ายนี้อยากจะขอบคุณพี่ๆมากนะครับ ที่ให้โอกาสเด็กอย่างผมในวันนั้น ขอบคุณที่คอยสั่งสอนผม คอยแนะนำสิ่งดีๆให้ผม ขอบคุณที่คอยดูแลและช่วยเหลือผมในทุกเรื่องๆ ขอบคุณพี่ๆมากครับ

เปา,  คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรม ศิลปากร

bottom of page